ค่ายทำนาปอสาม 2024

เมื่อจูเลียส ซีซาร์ พากองทัพของเขาข้ามแม่น้ำรูบิคอน ว่ากันว่านั่นคือจุดที่หากข้ามไปแล้วไม่อาจหวนกลับ

วันนี้นักเรียนชั้น ป.3 ของเราก็กำลังเตรียมข้ามแม่น้ำรูบิคอน ในใจของพวกเขาเช่นกัน ข้ามฝั่งนทีแห่งวัยเด็ก ที่ข้ามแล้ว…ไม่อาจหวนคืน

หากมองว่าเด็กเป็นเพียงเด็ก เราอาจไม่ได้มองด้วยหัวใจให้ลึกซึ้งว่า เด็กวัยนี้กำลังจะต้องเผชิญหน้ากับจุดเปลี่ยนในวัยของพวกเขาหนักหนาสาหัสเพียงใด การรับรู้ว่าโลกเบื้องบนไม่มีจริง นางฟ้าเทวดาไม่สามารถทำงานกับดวงจิตของเขาได้แล้ว หรือตัวของเขานั้น แท้จริงเป็นของตัวเขาเอง ไม่ใช่ของพ่อและแม่แต่อย่างใด

ความเจ็บปวดเหล่านี้ ล้วนพาให้พวกเขาไขว้เขว สับสน วิตก กังวล จนอาจนำไปสู่พฤติกรรมอันไม่น่ารักในสายตาผู้ใหญ่จากเด็กวัย 9 – 10 ปีนี้อยู่เสมอ สิ่งที่เราจะสามารถช่วยพวกเขาตระเตรียมตัวเองให้รับมือเมื่อถึงเวลาแห่งความวิตกนั้น คือการมอบมุมมองแก่พวกเขาว่าโลกนี้งามและน่าไว้วางใจ มุมมองที่เขาจะรับรู้ได้ว่าโลกนี้น่าอยู่และเขาสามารถดำรงชีวิตที่เป็นของเขาเองบนโลกใบนี้ได้

ค่ายทำนาจึงเปรียบเสมือนการจำลองการดำรงวิถีชีวิตบนโลกใบนี้ ให้พวกเขาได้เห็นว่าหนึ่งสมอง สองมือ และหนึ่งหัวใจของเขา คืออาวุธอันทรงพลังในการสรรค์สร้างทุกสิ่งขึ้นมาได้ด้วยตัวของเขาเอง ค่ายทำนาจึงไม่ใช่แค่การทำนา แต่เด็ก ๆ ได้เรียนรู้การใช้ชีวิตด้วยตัวเอง การกินอยู่หลับนอนโดยไม่มีพ่อแม่ ต้องออกจากเซฟโซนอันเคยชิน แม้เพียงไม่กี่วัน แต่พวกเขาต้องเรียนรู้การตระเตรียม การวางแผน การดูแล สิ่งที่เป็นของตัวเอง ของเพื่อน และของชุมชน เรียนรู้ที่จะเชื่อมโยงตัวเองเข้ากับสิ่งรอบตัวบนโลกใบนี้ เหล่านี้จึงเป็นภารกิจสำคัญที่เราจะนำพาเด็ก ๆ ข้ามแม่น้ำรูบิคอนในใจของพวกเขาที่ไม่อาจหวนกลับได้อีกแล้ว และได้ก้าวผ่านในฐานะผู้พิชิตเช่นเดียวกับจูเลียส ซีซาร์

ขอขอบคุณป้ากาด และลุงชัย แห่งบ้านสวนตำบลบ้านหว้า ที่ให้พื้นที่การเรียนรู้ และการดูแลที่แสนอบอุ่นตลอด 3 วัน 2 คืน แก่กองทัพน้อย ๆ เหล่านี้ค่ะ